แนวคิดของ metaverse มีมาหลายปีแล้ว แต่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ได้นำไปสู่การโฆษณาและการเก็งกำไรที่เกินจริง อย่างไรก็ตาม แม้จะมีโฆษณาที่เกินจริงไปมาก แต่ความจริงก็คือ metaverse นั้นไม่น่าจะกลายเป็นโลกดิจิทัลที่ครอบคลุมทุกสิ่งอย่างที่หลายคนคาดหวัง
- ประการแรก ความท้าทายทางเทคนิคนั้นยิ่งใหญ่มาก การสร้างโลกที่สมจริงและเชื่อมต่อถึงกันอย่างสมบูรณ์ซึ่งรวมเข้ากับความเป็นจริงทางกายภาพของเราได้อย่างลงตัวเป็นงานที่ยิ่งใหญ่ มีความท้าทายทางเทคนิคมากมายที่ต้องเอาชนะ รวมถึงข้อจำกัดด้านแบนด์วิธ ปัญหาเวลาแฝง และความต้องการฮาร์ดแวร์ VR คุณภาพสูง แม้ว่าจะสามารถเอาชนะความท้าทายเหล่านี้ได้ แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าว่าประสบการณ์ที่ได้รับนี้จะน่าดึงดูดใจมากพอที่จะทำให้ผู้ชมจำนวนมากพอที่จะลงทุนไปกับมัน
- ประการที่สอง มีข้อกังวลทางสังคมและจริยธรรมที่ต้องได้รับการแก้ไข metaverse มีศักยภาพในการก่อให้เกิดการเสพติดแบบใหม่และความโดดเดี่ยวทางสังคมมากขึ้น เนื่องจากผู้คนจมดิ่งอยู่ในโลกดิจิทัลมากขึ้นโดยต้องแลกมากับความสัมพันธ์และหน้าที่การงานในชีวิตจริง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการเป็นเจ้าของข้อมูล ตลอดจนศักยภาพในการแสวงหาผลประโยชน์และการละเมิดสิทธิในโลกของ VR นี้
- ประการสุดท้าย แรงจูงใจทางเศรษฐกิจสำหรับการสร้าง metaverse นั้นไม่ชัดเจน แม้ว่าอาจมีแอปพลิเคชันเฉพาะสำหรับตัวมันเอง เช่น การเล่นเกมหรือการทำกิจกรรมเสมือนจริง แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้ที่ metaverse จะกลายเป็นแพลตฟอร์มกระแสหลักที่สามารถรองรับกิจกรรมที่หลากหลายได้ ซึ่งหมายความว่าผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการลงทุนในเทคโนโลยีนั้นไม่แน่นอน ซึ่งอาจจะเป็นตัวขัดขวางนักลงทุนและนักพัฒนาที่มีศักยภาพให้เข้ามาลงทุนใน metaverse ได้
- สรุปแล้วนั้น แนวคิดของ metaverse นั้นเป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ แต่ความท้าทายที่มันต้องก้าวข้าม ไม่ว่าจะเป็น ความท้าทายทางเทคนิค สังคม และเศรษฐกิจนั้นทำให้มันไม่น่าที่จะกลายเป็นเรื่องจริงได้ กลับกัน เราควรมุ่งไปกับการสร้างอะไรที่มันใช้งานได้จริงและยังยื่นขึ้น สามารถทำให้ชีวิตของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องสูญเสียการเชื่อมต่อกับโลกแห่งความเป็นจริง