วันนี้เรามีเรื่องน่าสนใจมาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ คราวนี้เป็นคิวของการ “วัดสัดส่วน” ผมคิดว่าทุกท่านน่าจะเคยประสบกับปัญหานี้มาก่อนในเวลาที่เราอยากจะซื้อเสื้อผ้าหรือกางเกงซักตัว แต่เรากลับไม่แน่ใจว่าสัดส่วนเป๊ะๆ ของเราคือเท่าไหร่กันแน่ ถ้าจะให้กะเอาก็กลัวว่ามันจะหลวมไปไหม คับไปรึเปล่า ปัญหานั้นจะหมดไปเพราะว่าตอนนี้ทางมหาวิทยาลัย Oxford ได้พัฒนา AI สุดล้ำที่จะมาสแกนร่างกายของคุณเพื่อหาสัดส่วนที่แม่นยำ จุดประสงค์คือเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การช็อปปิ้งออนไลน์และช่วยประหยัดผลตอบแทนให้กับผู้ค้าปลีกในสหราชอาณาจักร
โดย Aistetic ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกในปี 2019 โดย Duncan McKay จาก INSEAD MBA และ Phil Torr ศาสตราจารย์ด้าน Computer Vision และ Deep Learning แห่งมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด บริษัทเทคโนโลยีดังกล่าวได้รับรางวัล Innovate UK Grants สองรางวัล และ Future Fashion Factory Grant หนึ่งรางวัลจากความร่วมมือกับ the University of Leeds ด้วยเงินทุนรวมประมาณ 1.2 ล้านปอนด์
คุณ McKay หนึ่งในผู้ก่อตั้งได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันเองเคยทำงานให้กับ L’Oreal, Unilever และ PepsiCo ในการคิดหาแนวคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมถึงการหาทางออกให้กับปัญหาที่ลูกค้าเจอด้วย – ฉันเข้าร่วมกับสิ่งนี้เพราะฉันรักในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ฉันก่อตั้ง Aisteitc ร่วมกับ Phil Torr เพราะว่าตัวฉันเองก็เคยประสบปัญหาเรื่องเสื้อผ้าที่ไม่พอดีตัว และเราทั้งคู่คิดว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้นะ ในยุคที่มือถือแทบจะกลายเป็นอวัยวะหนึ่งของร่างกายเราอยู่แล้ว เราทั้งคู่เลยไม่รีรอเลยและเราคิดว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้นมันยิ่งใหญ่ เราต้องสร้างโมเดล 3 มิติขึ้นมา”
Aistetic นั้นเป็น โค้ดของ JavaScript ที่สามารถรวมเข้ากับเว็บไซต์ของผู้ค้าปลีกได้ ซึ่งมันสามารถใช้งานได้กับทั้งร้านค้าของ WordPress และ Shopify เมื่อใช้ Aistetic ผู้ใช้สามารถเลือกเสื้อผ้า จากนั้นใช้ซอฟต์แวร์ AI เพื่อสแกนร่างกายเพื่อหาสัดส่วนของตนเองและสัดส่วนของเสื้อผ้าภายในเวลา 3 นาทีหรือน้อยกว่านั้น McKay อธิบายว่าเครื่องมือใหม่นี้สามารถลดอัตราผลตอบแทนได้มากถึง 30% และมันช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถประหยัดเงินได้เป็นอย่างมาก
McKay กล่าวว่า “เมื่อใช้เครื่องมือของเรา ผู้ใช้สามารถที่จะบันทึกรูปร่างของตนเองลงบนโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะวัดสัดส่วนร่างกายตัวเองที่มีความแม่นยำถึง 98% เลยล่ะ สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็คือยืนหันหลังให้กล้องและหันไป 10 วินาที เราต้องการที่จะเสริมศักยภาพให้กับการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าของผู้คนโดยอิงจากสัดส่วนของพวกเขาที่ถูกวัดออกมาอย่างแม่นยำ สิ่งต่อไปที่เราอยากจะทำคือการพัฒนาให้มันไม่จำเป็นที่จะต้องมี Code สำหรับลูกค้าของทาง Shopify – หากเราทำได้ มันจะทำให้แพลตฟอร์มของเรานั้นพร้อมที่จะไปอยู่บน Marketplace ของทาง Shopify ยังไงล่ะ”
อัตราผลตอบแทนที่สูงไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่คอยกีดกันการเติบโตของผู้ค้าปลีกเท่านั้น แต่มันยังเป็นตัวปล่อยมลภาวะชั้นดีเลยด้วย ทาง UN ได้มีการคาดการณ์ว่า มากกว่า 10% ของคาร์บอนนั้นมาจากอุสาหกรรมแฟชั่นอีกด้วย
McKay ยังกล่าวอีกว่า “Carbon footprint ในการส่งเสื้อผ้ากลับไปให้ร้านอาจจะสูงถึง 4.2 กก เลยด้วยซ้ำ และนี่คือสิ่งที่เรานั้นนึกไม่ถึงเลย ด้วยเทคโนโลยีนี้ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย – สามารถวางไว้บนเว็บไซต์ใดก็ได้ และมันยังช่วยส่งเสริมแนวทางใหม่ๆ ให้กับร้านค้าได้อีกด้วย”
