More

    5 เทคโนโลยีที่จะมายกระดับการทำงานแบบ WFH

    5 เทคโนโลยีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานจากที่บ้าน ให้สะดวกยิ่งขึ้น และช่วยลดความเครียดในการทำงาน

    การทำงานจากที่บ้านหรือ Work From Home (WFH) ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างมากในช่วงโรคระบาดที่ยังคงต่อเนื่อง นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่ก้าวไกลขึ้นไปยังปัจจุบันยังช่วยเสริมสร้างแนวโน้มนี้ได้อีกด้วย หลายบริษัทได้เปลี่ยนวิธีการทำงานเป็น remote work เพื่อให้พนักงานปลอดภัยในช่วงเวลาที่ยังต้องดำเนินธุรกิจต่อไป ในปัจจุบัน ยังคงมีเทคโนโลยีที่ก้าวข้ามขึ้นมาช่วยปฏิวัติรูปแบบการทำงานที่ไม่จำเป็นต้องเข้าสถานที่งาน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกลได้อย่างสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น

    1. Virtual Reality

    หนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นที่สุดที่จะปฏิวัติรูป WFH คือ Virtual Reality VR ที่จะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านโดยรู้สึกเหมือนอยู่ในสำนักงาน เทคโนโลยีนี้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่จำลองพื้นที่ทำงานในสำนักงาน ช่วยให้พนักงานสามารถโต้ตอบกับเพื่อนร่วมงาน ทำงานร่วมกันในโครงการ และเข้าร่วมการประชุมโดยไม่ต้องออกจากบ้านอย่างสะดวกสบาย

    ด้วย VR พนักงานสามารถมีสถานะเสมือนจริงในสำนักงาน ซึ่งจะช่วยให้พวกเขารู้สึกผูกพันกับเพื่อนร่วมงานและบริษัทมากขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดความรู้สึกโดดเดี่ยวและทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น

    2. Artificial Intelligence

    อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติรูปแบบการทำงานจากที่บ้าน คือ AI ที่มีศักยภาพในการทำงานอัตโนมัติและให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการทำงานของพนักงาน เทคโนโลยีนี้ยังสามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล การบริการลูกค้า และด้านอื่นๆ ของพนักงานได้ ตัวอย่างเช่น สามารถใช้ AI เพื่อทำงานซ้ำๆ โดยอัตโนมัติ เช่น การป้อนข้อมูล ทำให้พนักงานมีเวลาไปโฟกัสกับงานที่สำคัญกว่า AI ยังสามารถให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวิธีการทำงานของพนักงาน เช่น เวลาที่พวกเขาใช้ไปกับงานบางอย่าง และประสิทธิภาพการทำงานของพวกเขาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของวัน

    3. Cloud Computing

    การประมวลผลแบบ Cloud เป็นแพลตฟอร์มสำหรับพนักงานในการเข้าถึงแอปพลิเคชัน ข้อมูล และทรัพยากรอื่นๆ จากอุปกรณ์ใดๆ โดยไม่คำนึงถึงตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานทางไกลสามารถทำงานร่วมกัน จัดระเบียบ และติดตามภาระงานของตนได้ง่ายขึ้น

    ด้วยการประมวลผลแบบ Cloud พนักงานสามารถเข้าถึงไฟล์และแอปพลิเคชันเดียวกันกับเพื่อนร่วมงานในสำนักงาน ทำให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันและลดความเสี่ยงของการสื่อสารผิดพลาด

    4. Video Conferencing

    การประชุมผ่านวิดีโอเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะปฏิวัติรูปแบบการทำงานจากที่บ้าน การประชุมทางวิดีโอช่วยให้พนักงานสามารถติดต่อกับเพื่อนร่วมงานและเข้าร่วมการประชุมได้จากทุกที่ในโลก เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยสร้างความรู้สึกเป็นชุมชนในหมู่ผู้ปฏิบัติงานทางไกล และทำให้สมาชิกในทีมติดต่อกันได้ง่ายขึ้น

    ด้วยการประชุมทางวิดีโอ พนักงานสามารถเข้าร่วมการประชุมและทำงานร่วมกันในโครงการเสมือนอยู่ในสำนักงาน สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงการสื่อสารและทำให้แน่ใจว่าทุกคนเข้าใจตรงกันได้

    5. Mobile Applications

    แอปพลิเคชันมือถือสามารถช่วยให้พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอนุญาตให้พวกเขาเข้าถึงสื่อการทำงานและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้ทุกที่ แอปพลิเคชันมือถือสามารถใช้เพื่อเข้าถึงอีเมล ไฟล์ และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ทำให้พนักงานสามารถติดต่อกันได้แม้ไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน

    ด้วยแอปพลิเคชันบนมือถือ พนักงานสามารถทำงานได้จากทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ระหว่างเดินทาง หรือเดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ สิ่งนี้สามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและรับประกันว่าตรงตามกำหนดเวลา

    โดยสรุปแล้ว โมเดลการทำงานจากที่บ้านจะคงอยู่ต่อไป และเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง พนักงานก็จะทำงานจากระยะไกลได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้ พนักงานที่ทำงานจากระยะไกลสามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมงานได้ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในสำนักงาน และช่วยให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจากทุกที่ในโลก

    SourceMedium

    Follow Us

    16,062FansLike
    338FollowersFollow
    0FollowersFollow

    Latest stories

    You might also like...